ขับขี่ปลอดภัย เป็นสิ่งแรกที่ผู้ขับขี่ทุกคนจะต้องคำนึงถึงและให้ความสำคัญ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา มิใช่คุณคนเดียวเท่านั้นที่จะเสียใจแต่ยังคงมีคนรอบข้างที่เค้าเป็นห่วงคุณและเสียใจไปกับคุณด้วย ดังนั้นคุณจึงควรตระหนักและ "ขับขี่ให้ปลอดภัย" เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง
34 คำแนะนำเพื่อการ "ขับขี่ปลอดภัย"
- ตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยยังใช้งานได้ดีหรือไม่ โดยการกระตุกดึงสายเข็มขัดอย่างรวดเร็ว แล้วสายเข็มขัดต้องล็อค นั้นหมายความว่าเข็มขัดนิรภัยยังคงใช้งานได้ดี
- การสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ถูกต้องคือขึ้นเบรกมือ-ปลดเกียร์ว่าง-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-เหยียบเบรก-สตาร์ทเครื่องยนต์
- เพื่อความปลอดภัยเมื่อออกรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ประมาณ 3-4 เมตร ควรทดสอบระบบเบรกเป็นอันดับแรก
- ขณะขับรถหากเกิดคันเร่งค้างควรตั้งสติให้ได้เป็นอันดับแรก
- การขับรถช่วงฤดูฝนควรตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนอย่างสม่ำเสมอว่าสามารถใช้ได้ปกติหรือไม่
- การขับรถในขณะที่ฝนตกให้เปิดไฟส่องสว่าง
- การขับรถในขณะฝนตกผู้ขับขี่ไม่ควรปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง ควรเปิดไฟเป็นระยะอยู่ตลอดขณะที่ฝนตก
- ขณะขับรถลุยน้ำต้องเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกติเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับ
- น้ำฝนจะกลายเป็นเหมือนแผ่นฟิล์มที่รองรับระหว่างยางกับพื้นถนน จึงทำให้ลื่นไถลได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนกำลังเริ่มตกใหม่ๆ
- เมื่อฝนเริ่มตกหนักในขณะที่ท่านขับรถอยู่ในเขตที่จำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ท่านควรชะลอความเร็วลงให้น้อยกว่าที่กำหนด
- *** การหยุดรถในขณะที่ฝนตกจะใช้ระยะทางมากกว่าการหยุดรถปกติ
- หลังจากขับรถผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง ท่านควรทดสอบระบบเบรกของรถว่ายังใช้งานได้เป็นปกติอยู่หรือไม่
- หากท่านจอดรถในทางเดินรถหรือบนไหล่ทางในเวลากลางคืน ท่านจะต้องเปิดไฟหรี่ มิฉะนั้นอาจทำให้รถขับมาใบบริเวณที่ท่านจอดรถได้
- เมื่อรถเกิดเสีย ควรนำรถจอดเข้าข้างทางแล้วเปิดไฟฉุกเฉินไว้
- *** รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน (รถไม่ใช่ระบบเบรก ABS) จะส่งผลให้ล้อล็อคและทำให้รถหมุนได้
- *** หากยางรถเกิดแตกหรือระเบิดขณะขับรถ พวงมาลัยรถจะหนักและรถจะเอียง ท่านจะต้องพยายามคุมสติ บังคับพวงมาลัยและลดความเร็วลง และที่สำคัญไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหันเป็นอันขาด
- วิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถเกิดไฟลัดวงจร คือ ตัดกระแสไฟหรือหาทางตัวขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน
- การจอดรถชิดขอบทาง ล้อหน้าควรอยู่ในลักษณะตรงและขนานกับขอบทางหรือฟุตบาท
- หากท่านจอดรถชิดขอบทางทางด้านซ้ายอยู่ และต้องการที่จะเคลื่อนตัวออก ท่านควรมองดูรถที่ตามมาผ่านกระจกมองข้างและกระจกมองหลัง จากนั้นเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวา
- การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่ง มีผลเสียทำให้การเข้าเกียร์เป็นไปได้ยากและทำให้ระบบเกียร์เสียเร็วกว่าปกติ
- ผู้ขับขี่จะต้องหันหน้ามองไปทางด้านข้างก่อนเปลี่ยนช่องจราจร เพื่อตรวจดูจุดบอดของรถด้านขวา
- ในการขับขี่บนทางลาดชัน ผู้ขับขี่ควรใช้เกียร์ต่ำเพื่อหน่วงความเร็วของรถ
- ไม่ควรใช้เบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานในขณะขับขี่ลงทางลาดชันเพราะจะทำให้ผ้าเบรกไหม้
- สำหรับการขับขี่ในเวลากลางคืน ควรขับให้ช้ากว่าปกติหรือไม่เร็วกว่าสายตาที่มองเห็น
- เมื่อขับรถในเวลากลางคืน ผู้ขับขี่ควรทิ้งระยะห่างระหว่างรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ
- การเลี้ยวรถที่ทางบังคับเลี้ยวเป็นการขับขี่ทางลักษณะที่ไม่จำเป็นต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว
- หลักการขับรถเข้าโค้งที่ถูกต้องควรลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง เพิ่มความเร็วขณะออกจากโค้ง
- ความไม่พร้อมของคนขับมีผลต่อการเกิดสถานการณ์อันตรายมากที่สุด
- การเปิดไฟสูงในขณะที่ไม่มีรถสวนทางเป็นการเปิดไฟสูงในสถานการณ์ที่ถูกต้อง
- การเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินตลอดเวลาเพื่อทำให้ผู้ขับขี่คันอื่นเข้าใจว่าเป็นรถที่ขับเร็วเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
- การเปิดไฟหน้ารถเมื่อต้องเร่งรีบไปทำงานเป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง
- การบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดทำให้รถเปลืองน้ำมัน
- การหมุนพวงมาลัยรถขณะจอดรถอยู่กับที่จะส่งผลให้ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ
- รถจะประหยัดน้ำมันขึ้นหากขับขี่รถด้วยความเร็วคงที่
ป้ายกำกับ :
เตรียมสอบใบขับขี่