มารยาทในการขับรถ เป็นสิ่งที่ผู้คนทุกคนพึ่งจะต้องมีและปฏิบัติอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะรีบร้อนเพียงใดก็ตาม เพราะทุกคนที่ใช้รถใช้ถนนก็คงรีบร้อนเหมือนๆ กัน และหากท่านไร้ซึ่งมารยาทในการขับรถและการใช้ถนนร่วมกับผู้อื่น ก็อาจจะนำมาซึ่งปัญหาระหว่างผู้ขับขี่ได้ ดังนั้นการตระหนักถึงมารยาทในการขับรถและปฏิบัติอยู่เป็นประจำ จะช่วยให้การใช้รถใช้ถนนเป็นไปได้อย่างราบรื่นและดีที่สุด
ทั้ง "28 มารยาทในการขับรถ" ที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น เป็นมารยาทที่ถือได้ว่าเป็นข้อปฏิบัติที่ยอมรับกันในระดับสากล ดังนั้นจึงควรปฏิบัติตามมารยาทดังกล่าว เพื่อให้การใช้รถใช้ถนนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด
มารยาทในการขับรถและใช้ถนนร่วมกับผู้อื่น
- การขับรถแซงอย่างปลอดภัยและไม่เสียมารยาท ผู้ขับควรให้สัญญาณไฟก่อนแซงและเร่งความเร็วรถแซงขึ้นไป และเว้นระยะห่างก่อนให้สัญญาณไฟขอกลับเข้าช่องจราจรเดิม และเร่งความเร็วให้เหมาะสมกับรถคันที่อยู่ด้านหน้า
- เมื่อท่านขับรถในช่องจราจรขวาสุด และมีรถด้านหลังขับขึ้นมาด้วยความเร็วสูง ท่านควรให้สัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายและเปลี่ยนไปยังช่องจราจรด้านซ้าย เพื่อให้รถที่มีความเร็วสูงกว่ารถของท่านแซงขึ้นไปอย่างปลอดภัย
- เมื่อมีผู้อื่นแบ่งปันน้ำใจในการใช้รถใช้ถนนให้ ไม่ควรเปิดไฟสูงแสดงการขอบคุณ แต่ให้แสดงความขอบคุณโดยโค้งศีรษะ ยกมือขวาขึ้นระดับคิ้ว หรือส่งยิ้มให้
- การแซงรถคันหน้าได้แล้วปาดหน้าชิดซ้ายทันที เป็นการแซงที่ไม่ปลอดภัยและแสดงถึงความไร้มารยาทของผู้ขับขี่รถ
- เมื่อรถที่ขับตามหลังมาให้สัญญาณขอแซง มารยาทที่ดีเพื่อแสดงการตอบรับว่ายินยอมให้แซงคือให้สัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย
- การใช้ไฟสูงที่ถูกต้องและไม่เสียมารยาท ควรเปิดไฟสูงเพื่อตรวจสอบสภาพถนนและริมถนน เฉพาะเส้นทางที่มืดมากและไม่มีรถวิ่งอยู่ด้านหน้าหรือสวนทางมา หลังจากนั้นให้ปิดไฟสูงทันทีที่มีรถวิ่งอยู่ด้านหน้าหรือสวนทางมา
- การกระทำที่แสดงถึงความมีมารยาทและน้ำใจให้แก่ผู้ใช้ถนนร่วมกันคือ ไม่หยุดรถบนเส้นทแยงสีเหลืองหรือบริเวณปากซอย และควรเปิดทางให้รถในเส้นทางอื่นสามารถขับรถผ่านไปได้ในขณะที่รถท่านติดการจราจร
- ไม่ควรบรรทุกสิ่งของยื่นพ้นตัวรถด้านหลังเกินกว่า 2.50 เมตร
- หากขับรถด้วยความเร็วต่ำหรือขับช้าให้ขับชิดขอบด้านซ้าย
- หากขับรถเข้าวงเวียนที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร ควรให้รถทางขวามือที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
- การเลี้ยวรถบริเวณทางแยกที่มีช่องจราจรมากกว่า 2 ช่องทาง ต้องขับอยู่ในช่องจราจรเดิมตั้งแต่เริ่มเข้าทางแยกจนเลี้ยวเสร็จสิ้น
- หากท่านขับรถผ่านซอยที่มีรถรอที่จะขับออกจากซอยเป็นจำนวนมาก ควรเปิดทางให้รถออกจากซอยโดยสลับกับรถทางตรง
- เมื่อเห็นคนยืนบนทางเท้าและแสดงท่าทีที่จะข้ามถนนตรงทางม้าลาย ผู้ขับรถควรแตะเบรกเตือนเพื่อให้รถหลังเห็นสัญญาณไฟและรู้ว่าท่านกำลังจะหยุดรถ และหยุดรถตรงทางม้าลายจนกระทั่งคนข้ามถนนเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงขับไปต่อ
- เมื่อขับรถเข้าเขตชุมชนที่มีการจราจรติดขัด ผู้ขับควรขับเร็วที่ต่ำหรือขับช้าๆ และระมัดระวังคนเดิน และให้ใช้แตรเมื่อจำเป็นเพื่อเตือนคนเดินถนนหรือรถคันอื่น
- เมื่อขับรถผ่านช่วงทางโค้ง หรือ ทางร่วมทางแยกในช่วงเวลากลางคืน ก่อนที่จะขับเข้าโค้งควรกะพริบไฟ และลดเป็นไฟต่ำเมื่อมีรถสวนทาง
- เมื่อขับรถผ่านเข้าเขตชุมชน โรงเรียน หรือ สถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ควรชะลอความเร็วรถ และใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ให้มาก
- การขับรถจี้ท้าย และบีบแตรไล่บนทางด่วนเป็นการขับขี่ที่ไร้ซึ่งมารยาทเป็นอย่างมาก
- การจอดรถขวางหน้าประตูบ้านผู้อื่นควรปลดเกียร์ว่างและไม่ดึงเบรกมือ
- เมื่อมีปริมาณรถสะสมจำนวนมากบริเวณเชิงสะพานข้ามแยกที่จะต้องขับรถผ่าน ท่านควรขับไปต่อท้ายแถวรถที่ติดสะสมอยู่ ไม่ควรแทรกเข้าใกล้เชิงสะพาน
- หากพบรถฉุกเฉินเปิดสัญญาณเสียงไซเรนกำลังวิ่งตามหลัง ผู้ขับขี่ควรเปลี่ยนช่องจราจรไปทางด้านซ้ายทันทีเมื่อปลอดภัย
- การเร่งความเร็วเมื่อมีรถแซงมาขนาบข้างเป็นพฤติกรรมที่ไร้น้ำใจ เสียมารยาทและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงขึ้นได้
- ผู้ขับขี่ไม่ควรเปิดไฟสูงขณะรถสวนกัน หรือขับตามหลังรถคันอื่นหรือเพื่อไล่รถคันหน้า เพราะไฟจะส่องไปเข้าตาผู้ขับคันนั้นทำให้มองไม่เห็นถนน หรืออาจตกใจขับเปลี่ยนเลนหรือเร่งเครื่องหนีซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
- ผู้ขับขี่ไม่ควบขับรถด้วยความเร็วสูงในที่ที่มีการจราจรพลุกพล่าน
- การขับรถในขณะที่อ่อนเพลีย ง่วงนอน หรือดื่มสุรา เป็นการขับขี่ที่ไร้ซึ่งจิตสำนึก
- ผู้ขับขี่ที่จิตสำนึกในความปลอดภัย ควรเตรียมพร้อมทั้งรถและคนก่อนออกเดินทางเสมอ
- เมื่อเกิดอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บ ผู้ขับขี่ควรให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเป็นอันดับแรก
- การไม่หยุดรถให้คนข้ามทางเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายจราจร และแสดงถึงความไร้น้ำใจ
- การขับช้าชิดขวาเป็นพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ควรกระทำ เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาอุบัติเหตุและการจราจรติดขัด

ทั้ง "28 มารยาทในการขับรถ" ที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น เป็นมารยาทที่ถือได้ว่าเป็นข้อปฏิบัติที่ยอมรับกันในระดับสากล ดังนั้นจึงควรปฏิบัติตามมารยาทดังกล่าว เพื่อให้การใช้รถใช้ถนนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด
ป้ายกำกับ :
เตรียมสอบใบขับขี่